"ลูก้า โมดริช" เตรียมอำลาเรอัล มาดริด หลังจบศึกสโมสรโลก ปิดตำนาน 13 ปีแห่งความยิ่งใหญ่

ลูก้า โมดริช กัปตันทีมเรอัล มาดริด ยืนยันผ่านอินสตาแกรมว่าเขาจะอำลาสโมสรหลังจบการแข่งขันฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยจะลงเล่นนัดสุดท้ายในลาลีกาที่สนามซานติอาโก เบร์นาเบว พบเรอัล โซเซียดัดในวันเสาร์นี้
มิดฟิลด์วัย 39 ปีชาวโครเอเชีย ซึ่งคว้าบัลลงดอร์ในปี 2018 กล่าวว่า “ช่วงเวลานี้มาถึงแล้ว...ช่วงเวลาที่ผมไม่เคยอยากให้มาถึง แต่นี่คือฟุตบอล และในชีวิต ทุกอย่างย่อมมีจุดเริ่มต้นและจุดจบ”
โมดริชย้ายจากท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ มาร่วมทัพราชันชุดขาวในปี 2012 และกลายเป็นตำนานของสโมสร โดยคว้าแชมป์รวม 28 รายการ รวมถึงแชมเปียนส์ลีก 6 สมัย และลาลีกา 4 สมัย เขาลงสนามให้เรอัล มาดริดไปถึง 590 นัด ทำได้ 43 ประตู และ 95 แอสซิสต์
แม้ฤดูกาลนี้จะถูกลดบทบาทเป็นตัวสำรองบ่อยครั้ง แต่โมดริชยังคงมีบทบาทสำคัญในทีม ด้วยผลงาน 2 ประตู 6 แอสซิสต์จาก 34 นัดในลาลีกา เขายังพาทีมผ่านถึงรอบก่อนรองชนะเลิศแชมเปียนส์ลีก ก่อนพ่ายอาร์เซนอลไป 5-1
ฟลอเรนติโน เปเรซ ประธานสโมสร กล่าวสดุดีว่า “โมดริชจะอยู่ในหัวใจของแฟนบอลมาดริดตลอดไป เขาคือผู้เล่นที่เป็นแบบอย่าง และสะท้อนคุณค่าของเรอัล มาดริดอย่างแท้จริง”
เกมในวันเสาร์นี้จะไม่ใช่เพียงแมตช์สุดท้ายของโมดริชเท่านั้น แต่ยังเป็นเกมสุดท้ายของกุนซือคาร์โล อันเชล็อตติ โดยมีรายงานว่า ชาบี อลอนโซ่ ผู้จัดการทีมไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น จะเข้ามารับช่วงต่อ
แม้โมดริชต้องเผชิญช่วงเวลายากลำบากเมื่อทีมเริ่มหันมาใช้กองกลางรุ่นใหม่ที่เน้นพละกำลังและความเร็วมากขึ้น เช่น ชูอาเมนี่, คามาวิงก้า และบัลเบร์เด้ แต่เขายังคงเป็นผู้นำในห้องแต่งตัว และยอมรับบทบาทของตนเองอย่างมืออาชีพ
การอำลาของโมดริชเปรียบเสมือนจุดสิ้นสุดของยุคหนึ่งในประวัติศาสตร์ของเรอัล มาดริด เพื่อเปิดทางให้กับการสร้างวัฒนธรรมใหม่ภายใต้โค้ชคนใหม่และนักเตะรุ่นต่อไป

